จากเด็กขายรองเท้าแบกะดิน สู่เจ้าพ่อรองเท้าพันล้าน: แรงบันดาลใจจาก Kito Thailand
สารบัญ
👶 จุดเริ่มต้นจากความยากลำบาก
สมพงษ์ กิจกำจาย เติบโตในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนที่มีสมาชิกร่วมสิบคน เป็นลูกชายคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 7 คน ประกอบด้วยชาย 5 คน และหญิง 2 คน ด้วยความที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ทำให้เขาต้องช่วยดูแลน้องๆ และทำงานหารายได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
ทุกเช้า สมพงษ์จะตื่นแต่เช้ามืด นำรองเท้าใส่เข่งบรรทุกจักรยานไปขายตามตลาดนัด เลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่าน ตั้งราคาที่คู่ละ 3 บาท แต่เมื่อขายไม่ค่อยออก จึงต้องลดราคาเหลือคู่ละ 2 บาท ประสบการณ์เหล่านี้กลายเป็นรากฐานสำคัญของการเข้าใจตลาดรองเท้าอย่างลึกซึ้ง
🛍️ ก้าวแรกสู่ธุรกิจรองเท้า
หลังจากทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ราว 10 ปี สมพงษ์ตัดสินใจลาออกเพื่อทำธุรกิจกับพี่น้อง เริ่มจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรองเท้าบาจา แบรนด์ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ด้วยกลยุทธ์การสั่งรองเท้าตรงจากโรงงานโดยไม่ผ่านยี่ปั๊ว ทำให้ได้ราคาที่ดีกว่า ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถทำยอดขายได้เป็นอันดับต้นๆ ของบาจา
🌟 กำเนิด Kito: จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์
บริษัท กีโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2535 หลังจากที่ครอบครัวกิจกำจายสั่งสมประสบการณ์ในวงการรองเท้ามาอย่างยาวนาน เริ่มต้นจากการผลิตรองเท้าในโรงงานห้องแถว จนพัฒนามาสู่โรงงานขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ย่านพระราม 2
แม้ในช่วงแรกจะเจอปัญหาออร์เดอร์ล้นจนทำให้ขาดทุนเดือนละหลายล้านบาท แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ทำให้ได้บทเรียนสำคัญในการวางแผนเรื่องออร์เดอร์ วัตถุดิบ และกระบวนการผลิต รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้
🔄 การรีแบรนด์ครั้งใหญ่: จาก "เท่ที่เท้า" สู่ "เท่สร้างได้"
ในปี 2560 Kito ได้ทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ภายใต้การนำของทายาทรุ่นที่สอง เปลี่ยนจากสโลแกน "เท่ที่เท้า" เป็น "เท่สร้างได้" พร้อมปรับภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่โลโก้ไปจนถึงดีไซน์ผลิตภัณฑ์
การรีแบรนด์ครั้งนี้มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายอายุ 20-30 ปี ที่ให้ความสำคัญกับ Lifestyle และต้องการดูดีตลอดเวลา โดยเน้น Emotional Benefit มากกว่า Functional Benefit เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
🔧 นวัตกรรมและการผลิต
จุดเด่นของ Kito คือการผลิตแบบ Handmade ถึง 80% ของขั้นตอนทั้งหมด ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 60,000 คู่ต่อวัน โรงงานของ Kito ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรองเท้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและระดับเอเชียแปซิฟิก
บริษัทมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยออกคอลเลคชั่นใหม่ 3-5 รุ่นทุกเดือน และมีการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ในการผลิตเพื่อให้ได้รองเท้าที่มีคุณภาพสูงสุด
🌏 การขยายสู่ตลาดโลก
ปัจจุบัน Kito ส่งออกไปยังกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศสำคัญอย่างอินเดียและรัสเซีย ด้วยรายได้รวมกว่าพันล้านบาทต่อปี
ความสำเร็จนี้เกิดจากการที่ผู้บริโภคต่างประเทศยอมรับในคุณภาพสินค้าไทย และการที่ Kito สามารถผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละตลาดได้อย่างแม่นยำ
👟 ไลน์ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น
Kito มีสัดส่วนการผลิตแบ่งเป็นรองเท้าแตะ 80-85% และรองเท้าผ้าใบ 15-20% โดยมีแผนขยายไลน์รองเท้าผ้าใบให้เพิ่มขึ้นเป็น 30-40% ในอนาคตอันใกล้
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม:
- Kito Keyboard: รองเท้าแตะไอคอนิกที่สร้างปรากฏการณ์ในวงการรองเท้าไทย
- รองเท้าแตะแฟชั่น: หลากหลายดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
- รองเท้าผ้าใบ: คอลเลคชั่นใหม่ที่เน้นความทันสมัยและสวมใส่สบาย
🛍️ แหล่งช้อปปิ้งที่เชื่อถือได้
KiKi Shoes เป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Kito ที่คัดสรรรองเท้าคุณภาพมาให้ลูกค้าได้เลือกสรร ด้วยประสบการณ์การขายรองเท้าที่ยาวนาน KiKi Shoes เข้าใจความต้องการของลูกค้าและนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ช่องทางการสั่งซื้อ:
- เว็บไซต์: KiKi Shoes Online Store
- Facebook: KiKi Shoes Thailand
สิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับจาก KiKi Shoes:
- รับประกันของแท้ 100% จากโรงงาน Kito โดยตรง
- บริการให้คำปรึกษาเรื่องการเลือกรองเท้าโดยผู้เชี่ยวชาญ
- จัดส่งรวดเร็วทั่วประเทศ
- อัพเดทคอลเลคชั่นใหม่ๆ ก่อนใคร
🌟 บทส่งท้าย: บทเรียนแห่งความสำเร็จ
ความสำเร็จของ Kito ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลจากการสั่งสมประสบการณ์และความมุ่งมั่นกว่า 30 ปี ดังที่คุณสมพงษ์เคยกล่าวไว้ว่า "เราไม่เคยหยุดพัฒนาสินค้าเลย แผนกออกแบบไม่เคยว่าง หยุดเมื่อไหร่เราตกทันที"
จากเด็กชายผู้ขายรองเท้าแบกะดินสู่เจ้าของธุรกิจรองเท้าระดับพันล้าน เรื่องราวของ Kito ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ไทยที่สามารถก้าวไกลสู่ระดับโลกได้
👉 สนใจชมคอลเลคชั่นรองเท้า Kito รุ่นล่าสุดได้ที่ KiKi Shoes
เยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์แบบ Kito ยอดนิยม คลิก

Kito สวม AH133

Kito สวม AH165