สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว KiKi! หน้าฝนแบบนี้ เจอฝนตกหนักทีไร รองเท้าก็เปียกชุ่มทุกที แถมบางทียังมีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็นตามมาอีก วันนี้เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้รองเท้าของเราแห้งเร็ว ไม่อับ ไม่เหม็น หลังจากเจอฝนหนักๆ กันครับ!
1. เช็ดน้ำส่วนเกินออกก่อน
ก่อนอื่น ให้ใช้ผ้าแห้งหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำส่วนเกินออกจากรองเท้าให้มากที่สุด วิธีนี้จะช่วยลดความชื้นเบื้องต้นได้ดีเลยครับ
- เช็ดทั้งด้านนอกและด้านในของรองเท้า
- อย่าลืมเช็ดบริเวณลิ้นรองเท้าและรอยต่อต่างๆ ที่น้ำอาจแทรกซึมเข้าไป
- ถ้าเป็นรองเท้าหนัง ให้ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดเบาๆ เพื่อไม่ให้หนังเสียหาย
2. ถอดพื้นรองเท้าออกมาผึ่งแยก
พื้นรองเท้ามักจะอุ้มน้ำไว้มาก การถอดออกมาผึ่งแยกจะช่วยให้ทั้งพื้นรองเท้าและตัวรองเท้าแห้งเร็วขึ้น
- ถอดพื้นรองเท้าออกมาอย่างระมัดระวัง
- เช็ดน้ำออกจากพื้นรองเท้าให้มากที่สุด
- วางพื้นรองเท้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี
3. ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ช่วยดูดซับความชื้น
กระดาษหนังสือพิมพ์เป็นตัวดูดซับความชื้นที่ดีมาก และหาได้ง่ายในบ้าน
- ยัดกระดาษหนังสือพิมพ์เข้าไปในรองเท้าให้เต็ม
- เปลี่ยนกระดาษทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อรู้สึกว่ากระดาษชื้น
- ทำซ้ำจนกว่ารองเท้าจะแห้งสนิท
ข้อควรระวัง: สำหรับรองเท้าสีอ่อน ให้ใช้กระดาษขาวแทนเพื่อป้องกันหมึกพิมพ์ติดรองเท้า
4. ใช้พัดลมช่วยเป่า
การใช้พัดลมจะช่วยให้อากาศหมุนเวียนและเร่งการระเหยของน้ำ
- วางรองเท้าห่างจากพัดลมประมาณ 30 ซม.
- เปิดพัดลมที่ความเร็วปานกลาง
- หมั่นพลิกรองเท้าทุก 15-20 นาทีเพื่อให้แห้งทั่วถึง
- ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่ารองเท้าจะแห้งสนิท
คำเตือน: อย่าใช้ลมร้อนหรือวางรองเท้าใกล้แหล่งความร้อนโดยตรง เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียทรงได้
5. ใช้ข้าวสารหรือซิลิก้าเจล
ทั้งข้าวสารและซิลิก้าเจลมีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นได้ดีมาก
- ใส่ข้าวสารหรือซิลิก้าเจลลงในถุงเท้าหรือถุงผ้าบางๆ
- วางถุงนี้ลงในรองเท้า
- ทิ้งไว้ข้ามคืนหรือประมาณ 6-8 ชั่วโมง
วิธีนี้นอกจากช่วยดูดความชื้นแล้ว ยังช่วยดับกลิ่นอับได้ด้วยนะครับ
6. ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ช่วยฆ่าเชื้อและระเหยเร็ว ทำให้รองเท้าแห้งเร็วขึ้น
- ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์เบาๆ ทั่วรองเท้าทั้งด้านในและด้านนอก
- วางรองเท้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี
- รอประมาณ 20-30 นาที
ข้อควรระวัง: วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับรองเท้าหนังแท้ เพราะอาจทำให้หนังแห้งและแตกได้
7. ใช้เครื่องเป่าผมแบบลมเย็น
เครื่องเป่าผมสามารถช่วยเร่งการแห้งได้ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง
- ตั้งเครื่องเป่าผมไว้ที่ระดับลมเย็นเท่านั้น
- เป่าห่างจากรองเท้าประมาณ 15-20 ซม.
- เป่าทั่วรองเท้าทั้งด้านในและด้านนอก
- ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีต่อข้าง
คำเตือน: อย่าใช้ลมร้อนเด็ดขาด และอย่าเป่านานเกินไปในจุดเดียว เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียทรงได้
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการป้องกันกลิ่นอับและเชื้อรา
- ใช้สเปรย์ระงับกลิ่นสำหรับรองเท้าหลังจากรองเท้าแห้งสนิทแล้ว
- วางถุงชาใหม่หรือถุงกาแฟในรองเท้าเพื่อดับกลิ่น
- ใช้ผงฟู้โรยในรองเท้าทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วเคาะออกในตอนเช้า
- เก็บรองเท้าในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเทดี
สรุป
การทำให้รองเท้าแห้งเร็วหลังเปียกฝนเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาสภาพรองเท้าให้ใช้งานได้นานขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันปัญหากลิ่นอับและเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาว KiKi ทุกคนนะครับ
แต่ถ้าคุณกำลังมองหารองเท้าคู่ใหม่ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ โดยเฉพาะหน้าฝนแบบนี้ อย่าลืมแวะมาดูคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของเราที่ KiKi Shoes Online นะครับ เรามีรองเท้าคุณภาพดี ดีไซน์สวย เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ราคาเป็นมิตร พร้อมส่งถึงบ้านคุณแล้ววันนี้!